MOVIE REVIEW AND STORYLINE: JOKER FOLIE à DEUX

Movie Review and Storyline: Joker Folie à Deux

Movie Review and Storyline: Joker Folie à Deux

Blog Article

รีวิวหนัง Joker: Folie à Deux โจ๊กเกอร์ โฟลีย์ อา เดอ ท่วงทำนองอาชญากรรมฉบับมิวสิคัล


Movie Review and Storyline: Joker Folie à Deux



ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง


ประเภท: อาชญากรรม / ดรามา / มิวสิคัลผู้กำกับ: ทอดด์ ฟิลิปส์
นำแสดงโดย: วาคีน ฟินิกซ์, เลดี้ กาก้า, แคเทอรีน คีเนอร์
ความยาว: 138 นาที
กำหนดฉายในไทย: 2 ตุลาคม 2024 (ในโรงภาพยนตร์)




 

เรื่องย่อ


Joker: Folie à Deux เป็นการพาไปตามติดชีวิตของ อาร์เธอร์ เฟล็ก นักแสดงตลกและอาชญกรผู้โด่งดังแห่งเมืองก็อทแธม ที่หลังจากถูกจองจำอยู่ในสถานที่ที่ขมขื่นที่สุดในเมือง ชีวิตสีเทาหม่นของเขาก็เริ่มกลับมามีสีสันขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ได้พบกับ ลี ควินเซล หญิงสาวผู้ที่ถูกควบคุมที่โรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยทางจิต จุดเริ่มต้นแห่งท่วงทำนองบทเพลงรักและชีวิตของพวกเขาได้เกิดขึ้น ณ ที่ตรงนี้ รับชมหนังฟรี 2024 เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ภาพคมชัด ระดับ HD ได้แล้ววันนี้

 

ผู้กำกับฝีมือดี ทอดด์ ฟิลิปส์ หวนกลับมาสานต่อชิ้นงานของเขาอีกครั้ง ด้วยการบรรเลงบรรจงใส่ไอเดียที่เขาอยากจะปล่อยของออกไปอย่างสุดพลัง โดยเขายังรับหน้าที่กำกับและร่วมเขียนบทหนังกับ สก็อต ซิลเวอร์ และ บ็อบ เคน อีกเช่นเคย กลายออกมาเป็นหนังดรามาอาชญากรรมที่ท็อปปิงด้วยบทเพลงฮิตสไตล์จูกบ็อกซ์ที่นำมาคลุกเคล้าในท่วงทำนองใหม่ที่คุ้นหู นับว่าเป็นกล้าบ้าบิ่นมาก ๆ


 

ความรู้สึกที่ได้จากการรับชม


อาจจะต้องบอกว่า แค่กล้าคิดจะสร้างในทิศทางนี้ก็คือชัยชนะแล้ว เพราะการจับคู่ประเภทนั้นที่ไม่น่าจะไปด้วยกันได้อย่าง หนังอาชญากรรมจัดจ้านจากวงการหนังฮีโรกับจังหวะเพลงส่งบทต่อบทแบบมิวสิคัลรัชดาลัย เป็นไอเดียที่พูดตรง ๆ ก็คือประหลาด แต่ก็เต็มไปด้วยความแปลกใหม่อยู่ไม่น้อย ณ จุดนี้ไม่มีอะไรถูกหรือผิด เพียงแต่ว่าการเลือกไปในทิศทางนี้นั้น ผู้สร้างจะสามารถละเลงและวาดลวยลายมันออกมาได้ดีถึงกึ่นหรือไม่

 

คำตอบสั้น ๆ ก็คือ Joker: Folie à Deux ยังไปได้ไม่ถึงตรงนั้นจริง ๆ สิ่งที่ค่อนข้างเป็นกังวลล่วงหน้าก่อนจะดูหนังเรื่องนี้ค่อนข้างเป็นจริง การหยิบจับเอาประเด็นอาชญากรรมมาใสกับทำนองเพลงกลายเป็นลีลาที่ยังหาจุดที่กลมกล่อมไม่ได้สักเท่าไหร่ แม้จะต้องยอมรับว่าเป็นไอเดียที่น่าประทับใจไม่น้อย แต่การประคับประคองในวิธีการเล่าเรื่องของหนังภาคนี้ยังค่อนข้างลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไม่ชวนลุ่มหลงได้เท่าที่ควร

 

แม้ว่าหนังจะคัดสรรแต่บทเพลงฮิต ๆ มาร้อยเรียงทำนองใหม่และหยอดเข้ามาใส่ในหนัง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมายังค่อนข้างขัดหูขัดตา สื่อเข้าถึงอารมณ์แบบติด ๆ ดับ ๆ อยู่ในหลายส่วน จากที่ควรจะอินได้กลับยังไม่อิน หรือบางพาร์ทต่อบทในเชิงลักษณะคำพูดส่งต่อกันไปน่าจะอิมแพ็คได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ แล้วที่ซ้ำร้ายถึงจะเป็นเพลงดัง ๆ แต่กลับยังหาเพลงไหนที่สื่ออารมณ์ออกมาได้ถึงใจไม่ได้เลย

 

ในพาร์ทงานโปรดักชันของทอดด์ ฟิลิปส์ ก็ยังคงดีงามแบบยกนิ้่วให้อีกเหมือนเคย ความพิถีพิถันในการใส่รายละเอียดความเป็นดรามาอาชญากรรมกลิ่นอายการร้องรำของมิวสิคัล ถือว่าเขาคนนี้ยังเต็มไปด้วยแพสชันที่เจิดจรัส งานดีไซน์ออกแบบฉากยังทำได้เจ๋ง เช่นเดียวกับ การกำกับภาพของ ฟรานซีน มายส์เลอร์ และงานตัดต่อหนังของ เจฟ กร็อธ ยังออกมาคมกริบเหมือนเคย

 

ไม่ต่างกับการแสดงของ วาคีน ฟินิกซ์ ที่ยังคงรักษามาตรฐานการเป็นโจ๊กเกอร์ได้อย่างทรงพลัง นี่คือบทบาทที่ส่งให้เขาคว้าออสการ์มาครองได้สำเร็จ แม้ว่าราศีในภาคนี้จะจะสังเกตได้เลยว่ามีพลังที่ค่อนข้างดร็อปลงไปประมาณหนึ่ง แต่การถ่ายทอดบทบาทของเขาก็ยังทำได้ดีเยี่ยม เพราะส่วนหนึ่งก็เป็นการเข้าเสริมของ เลดี้ กาก้า ที่กลายเป็นตัวละครใหม่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เพิ่มเติม แย่งซีนโจ๊กเกอร์ไปได้สบาย ๆ

 

อินเนอร์ทางการแสดงของกาก้าก็ยังทำได้ดีเช่นกัน ทั้งร้อง ทั้งแอคติ้ง ถือว่าตรงตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นไป นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งบทบาทการแสดงที่ค่อนข้างดีงามในวังวนอาชีพนักแสดงของเธออีกครั้ง เผลอ ๆ มีโอกาสจะติดโผเข้าชิงรางวัลต่าง ๆ ตอนช่วงต้นปีหน้าได้ด้วย ถ้าหากว่าคู่แข่งคนอื่น ๆ ไปมาช่วงชิงและแซงหน้าไปเพราะความดีเด่นกว่า นับว่าเป็นการตัวเลือกที่หนังเข้าใจตอบโจทย์นี้ได้ดี

 

ถึงจะแอบเสียดายหน่อย ๆ ตรงที่ภาคนี้แทบไม่ได้เน้นให้ความสำคัญกับตัวละครอื่น ๆ ได้เท่าที่ควรนัก กลายเป็นว่าคาแรกเตอร์อื่นใส่เข้ามาแค่เป็นตัวเสริมแบบควรมีไปเท่านั้น ทั้งที่ยังมีอีกหลายคนที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น เบรนแดน กลีสัน, เจคอป ลอฟแลนด์ หรือ แฮร์รี ลอว์เทย์ แต่เพราะว่าหนังเลือกที่จะเน้นในความสัมพันธ์คลั่งรักของโจ๊กเกอร์กับลีมากกว่า จึงน่าจะตัดสินใจทำให้องค์ประกอบนี้มีช่องว่างไว้เพียงเท่านี้

 

ยังสร้างภาคนี้ออกมาอีกทำไมกันนะ? นับว่าเป็นคำถามที่มักจะลอยขึ้นมาตอนที่กำลังนั่งดูหนังเรื่องนี้ เพราะเอาจริง ๆ แค่ Joker ภาคแรกที่ผ่านนั้นก็ถือว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างลงตัวในตัวเลขในระดับที่น่าพึงพอใจดีแล้ว ทำให้การมาสานต่อในครั้งนี้อาจจะถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องมีอีกก็ได้ ซ้ำร้ายยังเป็นความท้าทายที่ทะเยอทะยานมาก ๆ แต่กลับยังสร้างความกลมกล่อมออกมาได้ยังไม่ดีเท่าที่ควร

 

Joker: Folie à Deux อาจจะค่อนข้างดีเด่นและเจ๋งพอตัวในแง่ไอเดียและความกล้าในการจับเอามิวสิคัลมาใส่ในหนังแนวนี้ แต่สำหรับในภาพรวมแล้วนั้น คล้ายกับว่าตัวหนังถูกลบเลือนอัตลักษณ์ตัวเองบางอย่างออกไปอย่างในแบบที่ไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น และแทนที่กับความพยายามที่ได้แค่พยายาม กลายเป็นความดันทุรังเบา ๆ ในการประกอบร่างคอนเทนท์ ที่ผลลัพธ์ในท้ายที่สุดก็ยังไม่ใช่หนังภาคต่อเรื่องโปรดสักเท่าไหร่ ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ 2u-hd.com ภาพคมชัด ไม่มีโฆษณาคั่น รับชมหนังฟรี ตลอด 24 ชม.



#หนังฟรี2024 #JokerFolieàDeux #โจ๊กเกอร์โฟลีย์อาเดอ #รีวิวหนัง #MovieReview


 
กลับด้านบน

Report this page